ทัวร์แสวงบุญ 4 สังเวชนียสถาน สวดมนต์ข้ามปี 24ธ.ค.68-3ม.ค.69 Premium!
ทัวร์แสวงบุญ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล + สวดมนต์ข้ามปี 2568-2569
24ธันวาคม2568 - 3มกราคม 2568 11วัน 10คืน
42,000 (ราคาไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
1. สถานที่เยี่ยมชม : สังเวชนียสถาน 4 ตำบล+เมืองสำคัญ ราชคฤห์ ไวสาลี สาวัตถี
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 สถานที่ตรัสรู้ : พุทธคยา
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สถานที่แสดงปฐมเทศนา : สารนาถ
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ : ลุมพินี
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สถานที่ปรินิพพาน : กุสินารา
- ราชคฤห์ เมืองแรกที่พุทธศาสนาตั้งมั่น สถานที่ตั้งวัดแห่งแรกในพุทธศาสนา วันเวฬุวันมหาวิหาร
- นาลันทา สถานที่ตั้งอดีตมหาวิทยาลัยนาลันทาที่เคยยิ่งใหญ่ เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของพระสารีบุตรและกราบสักการะหลวงพ่อองค์ดำ
- ไวสาลี เมืองหลวงของแคว้นวัชชี ที่ตั้งของวัดป่ามหาวัณ สถานที่พระน้านางมหาปชาบดีโคตมีออกบวช
- สาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล ที่ตั้งวัดเชตวันมหาวิหาร สถานที่ประทับนานที่สุด 25 พรรษา สถานที่เกิดพระสูตรมากมาย
วัน+สถานที่เยี่ยมชม (โปรแกรมเต็มดูด้านล่างค่ะ)
1. | 24 ธ.ค. 67 | กรุงเทพ - พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ |
2. | 25 ธ.ค. 67 | พุทธคยา - พาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนา ล่องแม่น้ำคงคา |
3. | 26 ธ.ค. 67 | พาราณสี - สาวัตถี วัดเชตวันและเมืองที่ประทับนานที่สุด |
4. | 27 ธ.ค. 67 | สาวัตถี - ลุมพินี สถานที่ประสูติ |
5. | 28 ธ.ค. 67 | ลุมพินี - กุสินารา สถานที่ปรินิพพาน |
6. | 29 ธ.ค. 67 | กุสินารา - ไวสาลี - พุทธคยา |
7. | 30 ธ.ค. 67 | พุทธคยา - ราชคฤห์ นาลันทา เมืองแรกที่ศาสนาพุทธตั้งมั่น มีวัดแห่งแรกในอินเดีย หลวงพ่อองค์ดำนาลันทา |
8. | 31 ธ.ค. 67 | พุทธคยา เต็มวัน สวดมนต์ ปฏิบัติธรรมข้ามปีรับปีใหม่ |
9. | 1 ม.ค. 67 | พุทธคยาเต็มวัน ใส่บาตรพระตอนเช้า ไปเที่ยวชมดูสถานที่ของเจ้าชายสิทธัตถะก่อนตรัสรู้ |
10. | 2 ม.ค. 67 | พุทธคยา เต็มวัน ให้เวลาที่ต้นโพธิ์หรือช้อปปิ้งเต็มที่ค่า |
11. | 3 ม.ค. 67 | พุทธคยา - กรุงเทพ |
2. การเดินทาง
ราคาไม่รวมตั๋ว แต่ตามกำหนดวันที่ไปมีสายการบินเดียวที่บินคือ Thai Airways ค่ะ
- กรุงเทพ - พุทธคยา สายการบิน Thai ไฟลท์ TG327 ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.
- พุทธคยา - กรุงเทพ สายการบิน Thai ไฟลท์ TG328 ใช้เวลาเดินทาง 2.40 ชม.
- ภายในอินเดียใช้รถบัสส่วนตัวตลอดเส้นทาง (ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ของอะไรที่ใช้บนรถเช่นหมอน ผ้าห่ม ของฝากที่ยังไม่ได้แพ็คเอาไว้บนรถได้ ไม่ต้องเอาลงทุกวันค่ะ)
3. ที่พัก : โรงแรม
- พุทธคยา : วัดเนรัญชราวาส สร้างโดยหลวงพ่อถาวร จิตตวโร อดีตรองเจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม ดีกว่าหลายโรงแรมในพุทธคยา อาหารไทยดีมากค่ะ
- พาราณสี : Hotel Pinnacle หรือ Hotel Fern
- ลุมพินี : Hotel Five Elements Lumbini
- กุสินารา : Hotel Imperial
- สาวัตถี : Hotel Sravasti Platinum
โรงแรมที่คัดเลือกมาเป็นโรงแรมที่คุ้นเคยกับการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าใจทั้งวัฒนธรรมการกินของชาวต่างชาติเป็นอย่างดีและมารยาทสากล อาหารเป็นอาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ
หมายเหตุเรื่องห้องพัก
โรงแรมพัก 2 วัดพักห้องละ 2-3 ท่านค่ะ ฟ้าเข้าใจว่าท่านใดมาด้วยกัน พี่น้อง สามีภรรยาก็อยากพักด้วยกัน เข้าใจจุดนี้มากๆค่ะ จะจัดให้พักด้วยกัน เพราะเคยได้ฟังลูกทัวร์เล่าให้ฟังว่าโดนจับแยกหญิงชายเด็ดขาดถึงแม้ว่าจะมาเป็นคู่ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องเลือกที่พักอย่างละเอียดกว่าจะทำออกมาได้แต่ละทริปค่า
4. อาหาร
อาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ ส่วนอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่องแพ็คจากโรงแรมหรือวัดไทยบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากระหว่างเดินทางมีแต่ร้านอาหารท้องถิ่น อินเดียแท้ๆอาจทานลำบาก จึงแพ็คอาหารกล่องไปแล้วแวะทานระหว่างทาง บางเมืองมีวัดไทยระหว่างทางก็จะแวะพักทานอาหาร เข้าห้องน้ำกันค่ะ
5. ราคา
- ท่านละ 42,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ค่าตั๋วประมาณไม่เกิน 15,000 ค่ะ)
หลายท่านสงสัยว่าทำไมราคาสูง+ใช้เวลาหลายวัน ฟ้าเลือกทุกอย่างเองค่ะ รถ ที่พัก ไกด์และตารางเข้าแต่ละสถานที่ไม่อัด เดินทางระหว่างวัน ถึงเมืองก็เข้าสถูปไปกราบมีเวลาก็ใช้เวลากันในนั้นนานๆ อุตส่าห์บินมาตั้งไกลเนอะ ประกอบกับที่ใช้เวลาหลายวันคือวางวันไว้เผื่อแอคซิเดนท์ ถ้าเกิดอะไรขึ้นเรายังมีเวลาให้ขยับขยายได้บ้าง ถ้าไม่แอคซิเดนท์คือได้ไปที่แถมแน่นอน ไปสังเวชนียสถานฟ้าเชื่อว่าทุกคนตั้งใจไป ในเมื่อตั้งใจ อยากให้ไปทั้งที ไปดีๆให้สมความตั้งใจไปเลย ดีกว่ามานั่งเสียดายเงินค่ะ
ลูกหลานที่เลือกทัวร์ให้สว.ที่บ้านไป ไม่ต้องกังวลใจนะคะ ดูแลให้อย่างดีค่ะ แต่อยากให้พาไปเองดีกว่า ลูกหลานพาคุณพ่อคุณแม่คุณย่าคุณยายไปทัวร์สังเวชนียสถาน มันดีต่อใจจริงๆค่ะ
5.1 ราคารวม
- ค่ารถบัสที่ใช้ในการเดินทางในอินเดีย ค่าเรือลงแม่น้ำคงคา
- ค่าที่พักทุกเมือง // ค่าอาหารทุกมื้อ
- ค่าเข้าชมสถานที่ทุกเมือง (พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน วัดตามเมืองต่างๆ)
- ค่าวีซ่า 2 ประเทศอินเดีย เนปาล
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท กรณีเสียชีวิตระหว่างการเดินทางและการรักษาอาการอาหารเป็นพิษ 8,000 บาท (ไม่รวมประกันความเสียหายของสิ่งของและประกันสุขภาพ)
5.2 ราคาไม่รวม
- ตั๋วเครื่องบินตามจริง ค่าตั๋วประมาณไม่เกิน 15,000 ค่ะ จะซื้อเองหรือให้ทีมงานจัดการให้ก็ได้ค่ะ รีบจองก่อน ตั๋วยังไม่ขึ้นราคาค่ะ
- ทิปเจ้าหน้าที่ทัวร์(คนขับรถ เด็กรถ ไกด์อินเดีย เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของวัด+โรงแรม จัดสรรให้ทุกที่ค่ะ ตามความพึงพอใจค่ะ
- ค่าน้ำหนักกระเป่าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องที่เกินกว่าที่ระบุในกำหนดการ
- ค่าทำพาสปอต ค่าเดินในประเทศไทยในวันเดินทางไปและกลับ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าของฝาก เงินทำบุญ ค่าซิมโทรศัพท์
- ค่าประกันทรัพย์สินเสียหายจากการเดินทาง
โปรแกรมการเดินทางละเอียด ทัวร์สังเวชนียสถาน+สวดมนต์ข้ามปี 24ธค.68-3มค.69
วันที่ 1 : 24 ธันวาคม 2568 กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) - พุทธคยา
08.00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสายขาออกระหว่างประเทศชั้น 4
09.00 น. เช็คอินสายการบิน Thai ไฟลท์ TG327
12.20 น. เดินทางสู่สนามบินคยา ใ้ชเวลาเดินทาง 3.20 ชม. แต่อินเดียเวลาช้ากว่าไทย1.30 เวลาท้องถิ่นที่เราไปถึงจะบวกเพิ่มไปอีกนิดค่ะ
14.00 น. ถึงสนามบินคยา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบิน
- เอกสารฟ้าจัดการเขียนให้ทั้งหมด ตอนคุณแอร์โอสเตสมาแจกรับเอกสารไว้แล้วนอนต่อได้เลยค่ะ
- ตม.อินเดียที่คยามีประมาณ 4-5 เคาเตอร์ น้อยมากและทำงานช้ามาก ค่อยๆเปิดเล่มพาสปอต ค่อยๆแสกน เราอาจใช้เวลาที่ขั้นตอนนี้สักพัก ถือเป็นการรับน้องด่านแรกนะคะ
ผ่านตม.มารับกระเป๋า เดินทางไปกราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้ สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ใช้เวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็น เดินดูรอบๆและกลับมาทานอาหารเย็นพักผ่อนที่วัด เตรียมตัวเพื่อเดินทางตามรอยพระพุทธเจ้าในวัดถัดไป
วันที่ 2 : 25 ธันวาคม 2568 : พุทธคยา - พาราณสี
ช่วงเช้า-บ่าย |
ทานอาหารเช้าที่วัดเนรัญชราวาสและออกเดินทางไปยังเมืองพาราณสี แห่งแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล พาราณสีเป็นเมืองใหญ่ เมืองสำคัญที่ปัจจุบันก็ยังสำคัญอยู่ หลังจากตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ทรงพิจารณาถึงคนที่จะสอนได้ และเล็งเห็นว่าเหล่าปัญจวัคคีย์นี้ล่ะที่มีธุลีในตาน้อยพอจะเข้าใจธรรมที่ทรงค้นพบจึงเดินจากพุทธคยามาพาราณสี พบปัญจวัคคีย์และเทศน์สอนธรรมบทแรก ธัมจักรกัปปวัตรสูตร (เราจะสวดมนต์บทนี้กันที่สถานที่จริง หัดสวดไปได้เลยนะคะ)
หลังจากนั้นพาท่านไปชมวิถีชีวิตชาวอินเดีย ที่ใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 4,000 ปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่ Pinnacle Hotel |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
พาราณสี เป็นเมืองสำคัญของโลกในแง่สังคม วัฒนธรรม อารยธรรม ที่นี่ถูกกครองสลับกันไปมาระหว่างเจ้านครฮินดูและอิสลามจนถึงช่วงอังกฤษ แม่น้ำคงคาเป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ถึงแม้จะเป็น Top Destination ขาดนี้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่นี่แค่ครั้งเดียว อยู่จำพรรษาเดียวคือช่วงเวลาหลังจากตรัสรู้และมาโปรดปัญจวัคคีย์ หลังจากนั้นไม่เสด็จมาที่นี่อีกเลยค่ะ
ธัมเมกขสถูป สถานที่แสงปฐมเทศนา | ล่องแม่น้ำคงคา ชมวิถีชีวิตของคนอินเดีย | พิพิธภัณฑ์สารนาถ เก็บรักษาพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่งดงามที่สุด |
วันที่ 3 : 26 ธันวาคม 2568 : พาราณสี - สาวัตถี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่สาวัตถี มหานครคนดี สาวัตถีเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล สมัยพุทธกาลสาวัตถีจึงเป็นเมืองใหญ่มีคนมาศัยอยู่มากมาย เจ้าครองแคว้นคือพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ซึ่งรักและศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้ามาก จนอยากดองด้วยถึงขั้นส่งคนไปเจ้าหญิงจากแคว้นสักกะมาแต่งงาน จนสุดท้ายกลายเป็นโศกอนาฏกรรมล้างวงศ์วานของพระพุทธเจ้า (หากอยากฟังต่อ จองทัวร์เลยค่ะ)ที่นี่เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา จึงตรัสสอนพระสูตรมากมายที่นี่ เราจะไปกราบสักการะสถานที่สำคัญเหล่านี้
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็นและพักผ่อนที่โรงแรม Sravasti Platinum |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
สาวัตถี เป็นอีกเมืองที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน แต่เป็นอีกเมืองสำคัญของประวัติศาสตร์พุทธศาสนา สาวัตถีอย่างที่กล่าวไปว่าเป็นเมืองหลวงของแค้นโกศล ในสมัยพุทธกาลโกศลเป็นแคว้นใหญ่พอๆกับมคธและมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวดองกับพระพุทธเจ้า ด้วยความที่ทรงประทับที่นี่นานถึง 5 พรรษา จึงเกิดเหตุการณ์ เกิดพระสูตรมากมายที่นี่ ดังนั้นสาวัตถีจึงเป็นเมืองที่พลาดไม่ได้ รวมถึงวัดเชตวันที่เราจะพาไปกราบสักการะ เป็นอีกวัดใหญ่ วัดดังเดิมในพุทธศาสนา การได้ไปกราบสักการะสักครั้งจึงเป็นโอกาสสำคัญของเรามากค่ะ
กุฏิพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร | ต้นอานันทโพธิ์ ปลูกจากหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรก |
วันที่ 4 : 27 ธันวาคม 2568 : สาวัตถี - ลุมพินี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมและออกเดินทางสู่ด่านชายแดนอินเดีย เนปาล เสาโนรี ก่อนจะข้ามด่านแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 ผ่านกระบวนการตรวจคนออกเมืองกันก่อนแล้วเดินทางไปสู่จุดหมายของเรา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่โรงแรม 5 Elements |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ลุมพินี ปัจจุบันอยู่ในเขตแดนของประเทศเนปาลแต่สมัยเดิมลุมพินีตั้งอยู่ในเขตแดนของอินเดียตั้งแต่สมัยอินเดียยังเป็นมหาชนบท (มหาชนบทแปลว่าเมืองเจริญ) ลุมพินีดั้งเดิมคือสถานที่บริเวณแคว้นสักกะบ้านเกิด บ้านพ่อของเจ้าชายสิทธัตถะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในประเทศเนปาล เราก็จะมากราบกันค่ะ ราคาทัวร์รวมวีซ่าเนปาลแล้วค่ะ ลุมพินีไม่ใช่เมืองแต่เป็นสวนพักระหว่างเมือง ที่เจ้าชายสิทธัตถะมาประสูติที่ลุมพินีเพราะในสมัยพุทธกาลเป็นธรรมเนียมของหญิงที่จะเดินทางไปคลอดที่บ้านแม่ แต่พระนางสิริมหามายาไปไม่ทัน จึงทรงมีประสูติกาลที่สวนลุมพินี
วัดไทย 960 แวะพักผ่อนก่อนข้ามด่าน เนปาล ในทัวร์สังเวชนียสถาน 9-18พย.2565 | พระพุทธเจ้าน้อยที่คนไทยคุ้นเคย มุมนี้ได้ถ่ายเดี่ยวทุกคนแน่นอนค่ะ | วิหารมายาเทวี สร้างครอบสถานที่ประสูติ |
วันที่ 5 : 28 ธันวาคม 2568 : ลุมพินี - กุสินารา
|
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปกลับอินเดีย ผ่านกระบวนการเข้าเมืองของอินเดียและแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 กันอีกสักครั้ง เป็นโอกาสที่ดีสำหรับท่านที่ติดใจโรตีอารีดอยของที่วัดค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองกุสินารา ชื่อเดิมคือกุสาวดี
|
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็นและเข้าที่พักที่โรงแรม Imperial |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
กุสินาราในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเล็กในแคว้นมัลละ แต่สมัยดั้งเดิมก่อนยุคพุทธกาลเป็นเมืองใหญ่มากชื่อเมืองกุสาวดี ปกครองโดยพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ยิ่งใหญ่มากในช่วงนั้น ของวิเศษใดๆที่หาได้เป็นของพระเจ้ามหาสุทัสสนะหมด ซึ่งพระเจ้ามหาสุทัสสนะก็คือชาติภพก่อนๆของพระพุทธเจ้าและท่านก็กลับมาปรินิพพานที่กุสินาราแห่งนี้
วันที่ 6 : 29 ธันวาคม 2568 : กุสินารา -ไวสาลี - พุทธคยา
|
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่พุทธคยาระหว่างทางแวะเมืองไวสาลีเมืองเดิมตั้งแต่สมัยพุทธกาลระหว่างทางแวะกราบสักการะ
เสาอโศกนั้นเป็นจุดหมุดหมายสำคัญในการแสดงว่าสถานที่นี้คือสังเวชนียสถาน เสาอโศกสร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ในราชวงศ์เมารยะ ช่วงยุคหลังพระพุทธเจ้าประมาณ 200 ปี ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนาของเรา ในเส้นทางสังเวชนียสถาน เสาอโศกที่ไวสาลีเป็นต้นที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เราจะไปเห็นหัวเสา แค่หัวเสาที่สมบูรณ์ที่สารนาถ พาราณสีกันค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองเกสรียา แวะชมมหาสถูปเกสรียา สถูกต้นแบบของบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบันและเดินทางต่อสู่พุทธคยา |
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็นและเข้าที่พักที่วัดเนรัญชราวาส |
วันที่ 7 : 30 ธันวาคม 2568 : พุทธคยา - ราชคฤห์ นาลันทา
|
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปยังเมืองราชคฤห์ซึ่งเป็นเมืองสำคัญมากในชีวิตของพระพุทธเจ้า ราชคฤห์แห่งนี้เป็นเมืองแรกในแดนพุทธภูมิที่พุทธศาสนาตั้งมั่นโดยมีพุทธสาวกคนสำคัญคือพระเจ้าพิมพิสาร ปาวารณาตัวเป็นพุทธศาสนิกชน ในราชคฤห์จึงมีสถานที่มากมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพระพุทธเจ้าให้เราได้ศึกษาและกราบสักการะเช่น
ทานกลางวันกันที่วัดไทยสิริราชคฤห์และเดินทางต่อไปที่นาลันทา เมืองใกล้ๆเพื่อไปกราบสักการะ
เรื่องราวเหล่านี้แค่เกริ่นๆค่ะ พอไปถึงสถานที่จริงๆได้ฟังวิทยากรกันเพลินหู ดูข้างทางกันเพลินตาแน่นอนค่ะ |
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็นและเข้าที่พักที่วัดเนรัญชราวาส |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ราชคฤห์ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน 4 ตำบลแห่งใดเลย แต่เป็นเมืองสำคัญมากในยุคพุทธกาลเพราะเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธ 1 ในแคว้นมหาอำนาจในยุคนั้น ปกครองโดยพระเจ้าพิมพิสารผู้ซึ่งเคยเจอเจ้าชายสิทธัตถะแล้วก่อนแล้วเมื่อครั้งทรงออกบวช ด้วยผิวพรรณ หน้าตา เมื่อมาถึงราชคฤห์ชาวบ้านก็ลืออื้ออึงกันถึงความงามจนพระเจ้าพิมพิสารเสด็จไปพบพร้อมเสนอให้ออกจากเพศนักบวชแล้วมาช่วยกันปกครองแคว้นมคธ เจ้าชายสิทธัตถะทรงปฏิเสธไป พระเจ้าพิมพิสารจึทูลขอว่าหากทรงตรัสรู้ธรรมเมื่อใดให้มาโปรดท่านด้วย เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้อนุตตระสัมมาสัมโพธิญาณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ก็ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ทรงเสด็จกลับไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร และพุทธศาสนาก็ตั้งมั่นที่ราชคฤห์เป็นแห่งแรกในโลก นับจากนั้นเป็นต้นมา
วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา | กุฏิพระพุทธเจ้าบนยอดเขาคิชกูช ราชคฤห์ | หลวงพ่อองค์ดำ นาลันทา เตรียมน้ำมันมะพร้าวไปทาขอพรเรื่องสุขภาพค่ะ |
วันที่ 8 : 31 ธันวาคม 2568 : พุทธคยาเต็มวัน - ปฏิบัติธรรมข้ามปี
|
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ที่เจ้าชายสิทธัตถะเคยประทับเมื่อครั้งยังบำเพ็ญบารมี ณ อุรุเวลาเสนานิคม
ทานอาหารกฃางวันที่วัดเนรัญชราวาส ช่วงบ่ายให้เวลาปฏิบัติอิสระที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ นัดเวลาพอสมควรแล้วกลับมาอาบน้ำ พักผ่อน เตรียมตัวสำหรับกิจกรรมสวดมนต์และปฏิบัติธรรมข้ามปี ณ อุโบสถวัดเรัญชราวาส |
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็น ฟังเทศน์ และร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมข้ามปี |
วันที่ 9 : 1 มกราคม 2569 : พุทธคยาเต็มวัน - ใส่บาตรพระรับปีใหม่ ไปปฏิบัติที่ต้นโพธิ์กันต่อ
|
ทานอาหารเช้า ใส่บาตรพระรับปีใหม่ สวดมนต์ทำวัตรเช้าที่โบสถ์และไปต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทานอาหารกฃางวันที่วัดเนรัญชราวาส ช่วงบ่ายให้เวลาปฏิบัติอิสระที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์หรือช้อปปิ้งตามสะดวกค่ะ |
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็น ฟังเทศน์ และร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมข้ามปี |
วันที่ 10 : 2 มกราคม 2569 : พุทธคยาเต็มวัน
|
ทานอาหารเช้าที่วัดและเดินทางไปเขาดงคสิริ สถานที่บำเพ็ญทุกรกริยา ทานอาหารกลางวันที่วัดเนรัญชราวาส ช่วงบ่ายให้เวลาปฏิบัติอิสระที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์หรือช้อปปิ้งเก็บตกตามสะดวกค่ะ |
|
ช่วงค่ำ | ทานอาหารเย็น พักผ่อน เก็บของเตรียมกลับไทยวันรุ่งขึ้น |
วันที่ 11 : 3 มกราคม 2569 : พุทธคยา- กรุงเทพ (สุวรรณภูมิ)
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัด กราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก่อนกลับและออกเดินทางมาสนามบินคยา เช็คอินสายการบิน Thai ไฟลท์ TG328 ใช้เวลาเดินทาง 2.40 ชม. |
15.00 น. | ออกเดินกลับไทย ทานอาหารบนเครื่องค่ะ |
19.35 น. |
เดินทางถึงไทยโดยสวัสดิภาพ ขอบคุณที่ร่วมเดินทางตามรอยพระพุทธเจ้า ณ 4 สังเวชนียสถานมาด้วยกัน บุญได้ที่ได้ร่วมทำกันมาขอให้ส่งถึงทุกสมาชิกทุกท่าน สุขภาพกาย สุขภาพใจแข็งแรง รอไปเที่ยวด้วยกันใหม่รอบหน้านะคะ |