ทัวร์อินเดีย สังเวชนียสถาน หยุดยาวสงกรานต์ 6-12เมย66 บินภายใน พักโรงแรม

ทัวร์แสวงบุญ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล 

  หยุดยาว 6-12 เมษายน 2566 7วัน 6คืน 

exclusive !! กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบจากปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงอายุสังขาร

 

รายละเอียดย่อ (สถานที่ ที่พัก อาหาร การเดินทาง) 

1. สถานที่เยี่ยมชม : สังเวชนียสถาน 4 ตำบล+เมืองสำคัญ ราชคฤห์ ไวสาลี สาวัตถี

  • สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 สถานที่ตรัสรู้ : พุทธคยา
  • สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สถานที่แสดงปฐมเทศนา : สารนาถ
  • สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ : ลุมพินี 
  • สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สถานที่ปรินิพพาน : กุสินารา
  • ปัตนะ เมืองหลวงใหม่ของรัฐพิหาร ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากไวสาลี 
  • สาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล ที่ตั้งวัดเชตวันมหาวิหาร สถานที่ประทับนานที่สุด 25 พรรษา สถานที่เกิดพระสูตรมากมาย

 วัน+สถานที่เยี่ยมชม (โปรแกรมเต็มดูด้านล่างค่ะ)

1. 6 เมย. 66 กรุงเทพ - ปัตนะ กราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นจากไวสาลี
2. 7 เมย. 66 พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้
3. 8 เมย. 66 พุทธคยา - พาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนา ล่องแม่น้ำคงคา 
4. 9 เมย. 66

พาราณสี - กุสินารา สถานที่ปรินิพพาน

5. 10 เมย. 66 กุสินารา - ลุมพินี สถานที่ประสูติ ลุมพินี - สาวัตถี วัดเชตวันและเมืองที่ประทับนานที่สุด
6. 11 เมย. 66 ลุมพินี - สาวัตถี วัดเชตวันและเมืองที่ประทับนานที่สุด
7. 12 เมย. 66 สาวัตถี - ลัคเนาว์ - กรุงเทพ 

 

2. การเดินทาง 

2.1 ขาไป กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ) - โกลกาต้า - ปัตนะ 

  • กรุงเทพ-โกลกาต้า สายการบิน Indigo ไฟลท์ 6e1058 02:40 - 03:45 บิน 2.35ชม. รอต่อเครื่องที่โกลกาต้า 3.10 ชม. 
  • โกลกาต้า - ปัตนะ สายการบิน Indigo ไฟลท์  6E 6324 06:55 - 08:30 บิน 1.40 ชม. 

2.2 ขากลับ ลัคเนาว์ - กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ)

  • ลัคเนาว์ - โกลกาต้า สายการบิน Indigo ไฟลท์ 6E 6469 16:35 - 18:15 รอต่อเครื่องที่โกลกาต้า 3.15 ชม. 
  • โกลกาต้า - กรุงเทพ สายการบิน Indigo  6E 1057 21:30 - 01:40 ถึงกรุงเทพวันถัดไป

2.3 ภายในอินเดียใช้รถบัสส่วนตัวตลอดเส้นทาง (ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ของอะไรที่ใช้บนรถเช่นหมอน ผ้าห่ม ของฝากที่ยังไม่ได้แพ็คเอาไว้บนรถได้ ไม่ต้องเอาลงทุกวันค่ะ)

2.4 ตามสถานที่อาจมีนั่งตุ๊กๆเพื่อซ่อกแซ่กเข้าหมู่บ้านไปดู unseen ค่ะและช่วงล่องเรือแม่น้ำคงคา มีชูชีพ

 

3. ที่พัก : โรงแรม

  • พุทธคยา : Tathagat ติดต้นพระศรีมหาโพธิ์ เดินไปได้ค่ะ
  • พาราณสี : Hotel Pinnacle หรือ Hotel Fern
  • ลุมพินี : Hotel Pawan Palace
  • กุสินารา : Hotel Om Residency
  • สาวัตถี : Hotel Sravasti Platinum

โรงแรมที่คัดเลือกมาเป็นโรงแรมที่คุ้นเคยกับการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าใจทั้งวัฒนธรรมการกินของชาวต่างชาติเป็นอย่างดีและมารยาทสากล อาหารเป็นอาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ

4. อาหาร  

อาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ ส่วนอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่องแพ็คจากโรงแรมหรือวัดไทยบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากระหว่างเดินทางมีแต่ร้านอาหารท้องถิ่น อินเดียแท้ๆอาจทานลำบาก จึงแพ็คอาหารกล่องไปแล้วแวะทานระหว่างทาง บางเมืองมีวัดไทยระหว่างทางก็จะแวะพักทานอาหาร เข้าห้องน้ำกันค่ะ

5. ราคา 

  • ท่านละ 54,500 บาท (รวมตั๋วเครื่องบิน วีซ่า 2 ประเทศ + ไม่มีการเก็บค่าทัวร์เพิ่มหน้างาน)

5.1 ราคารวม 

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไฟลท์ที่ระบุในกำหนดการ
  • ค่ารถบัสที่ใช้ในการเดินทางในอินเดีย
  • ค่าที่พักทุกเมือง // ค่าอาหารทุกมื้อ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ทุกเมือง (พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน วัดตามเมืองต่างๆ)
  • ค่าวีซ่า 2 ประเทศอินเดีย เนปาล 
  • ค่าประกันการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท กรณีเสียชีวิตระหว่างการเดินทางและการรักษาอาการอาหารเป็นพิษ 8,000 บาท (ไม่รวมประกันความเสียหายของสิ่งของและประกันสุขภาพ) 

5.2 ราคาไม่รวม 

  • ค่าทิปเจ้าหน้าที่ทัวร์(คนขับรถ เด็กรถ ไกด์อินเดีย เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของวัด+โรงแรม จัดสรรให้ทุกที่ค่ะ ท่านละ 1,000 บาท / ทั้งทริป
  • ค่าน้ำหนักกระเป่าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องที่เกินกว่าที่ระบุในกำหนดการ
  • ค่าทำพาสปอต ค่าเดินในประเทศไทยในวันเดินทางไปและกลับ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าของฝาก เงินทำบุญ ค่าซิมโทรศัพท์
  • ค่าประกันทรัพย์สินเสียหายจากการเดินทาง 

 

โปรแกรมทัวร์เต็มสังเวชนียสถาน 6-12 เมษายน 2566 

วันที่ 0 : 5 เมษายน 2566 / กรุงเทพ (สุวรณภูมิ) - โกลกาต้า- ปัตนะ 

22.00 น. พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสายขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 Row E สายการบิน Indigo ไฟลท์ 6e1058

 

วันที่ 1 : 6 เมษายน 2566 / กรุงเทพ (สุวรณภูมิ) - โกลกาต้า- ปัตนะ 

03.20 น. ถึงสนามบินนานานชาติโกลกาต้า รอต่อเครื่อง 3.10 ชม.
06.55น. ต่อเครื่องไฟลท์ 6e6324 เดินทางสู่สนามบินปัตนะ
08.30น.

ถึงสนามบินนานาชาติปัตนะ ทานข้าวเช้า ณ โรงแรม Patliputra Continental 

และเดินทางต่อไปกราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ที่ขุดค้นมาได้จากปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงอายุสังขาร ณ เมืองไวสาลี

หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังพุทธคยา

12.00น.  ทานอาหารกลางวันที่วัดเนรัญชราวาส
18.00น. ทานอาหารเย็น และพักผ่อนที่โรงแรม Tathagat

 ปัตนะ เมืองหลวงใหม่ในปัจจุบัน ในสมัยพุทธกาลคือปาตลีบุตร

ชื่อเดิมคือปาตลีบุตร เป็นเมืองหลวงที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนราชคฤห์ สร้างโดยพระเจ้าอชาตศัตรู ลูกชายของพระเจ้าพิมพิสารผู้ฆ่าพ่อตัวเอง ปาตลีบุตรในอดีตถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการสงครามที่พระเจ้าอชาตศัตรูมุ่งหมายจะยึดไวสาลี แคว้นวัชชี แคว้นใหญ่อีกแคว้นในสมัยพุทธกาล หลักฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงนี้ถกบันทึกอยู่ในวรรคแรกของมหาปรินิพพานสูตรว่าด้วยการไปหาพระพุทธเจ้าของวัสสกาพรามณ์ 

ปัจจุบัน ปัตนะเป็นเมืองหลวงของรัฐพิหารและเป็นสถานที่เก็บรักษาพระบรมสารีริกธาตุที่ถูกขุดค้นได้จากปาวาลเจดีย์ สถานที่ปลงสังขารของพระพุทธเจ้า ว่านับจากนี้อีก 3 เดือนท่านะจเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน 

วันที่ 2 : 7 เมษายน 2566  พุทธคยาเต็มวัน 

 เช้า

ทานอาหารเช้าที่โรงแรม เยี่ยมชมสถานที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับชีวิตพระโพธิสัตว์ก่อนตรัสรู้และหลังตรัสรู้ที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก่อนไปสอนปัญจวัคคีย์ที่พาราณสี

  • อาศรมอุรุเวลกัสสปะ ชลิลผู้พี่ที่ถูกทดสอบจากพระพุทธเจ้ามากมาย ก่อนบวชในพุทธศาสนาและการรับพุทธศาสนาของชลิล 3 พี่น้องนี้เป็นกำลังสำคัญในการเผยแผ่ศาสนาสู่เมืองราชคฤห์
  • ต้นอาชปาลนิโครธ สถานที่นางสุชาดา ถวายข้าวมธุปายาส
  • สถานที่ลอยถาดก่อนเดินไปปฏิบัติใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์จนตรัสรู้
  • สถูปบ้านนางสุชาดา 

กลางวันกลับไปทานอาหารที่โรงแรมและช่วงบ่าย ตารางสบายๆค่ะ

  • ให้เวลาอิสระสำหรับช้อปปิ้งของฝาก หรือ ปฏิบัติธรรมตามอัธยาศัย ณ ต้นพระศรีมหาโพธิ
18.00น.

ทานอาหารเย็น และพักผ่อนที่โรงแรม Tathagat

 

พุทธคยา อุรุเวลาเสนานิคม พระโพธิสัตว์เจ้าชายสิทธัตถะ ลองผิดลองถูก ทรมายกายอยู่ที่นี่ 6 ปีกว่าจะตรัสรู้

ชื่อเดิมคืออุรุเวลาเสนานิคม ที่นี่นอกจากเป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้แล้ว ยังมีกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มแรกๆที่ทรงมาโปรดนั่นคือเหล่านักบวชชลิล ชลิลคือนักบวชกลุ่มหนึ่งเน้นการบูชาไฟ หลังจากโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 แล้ว ทรงเดินกลับมาเพื่อมาสอนชลิลกลุ่มนี้ ทั้งที่ชลิลกลุ่มนี้อยู่ใกล้กว่าแต่กลับไม่สอนก่อน ใช้เวลาเดิน 11 วันไปที่พาราณสี เพื่อไปโปรดปัญจวัคคีย์แล้วค่อยกลับมาสอนชลิล นั่นแสดงว่าท่านต้องมีเหตุผลแน่นอน หากเราศึกษาพุทธประวัติในเชิงประจักษ์แนวนี้ เราจะเข้าใจการทำงาน วิธีการสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้นแน่นอนค่ะ

 

วันที่ 3 : 8 เมษายน 2566 / พุทธคยา-พาราณสี 

เช้า   

ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี แห่งแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล พาราณสีเป็นเมืองใหญ่ เมืองสำคัญที่ปัจจุบันก็ยังสำคัญอยู่

หลังจากตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ทรงพิจารณาถึงคนที่จะสอนได้ และเล็งเห็นว่าเหล่าปัญจวัคคีย์นี้ล่ะที่มีธุลีในตาน้อยพอจะเข้าใจธรรมที่ทรงค้นพบจึงเดินจากพุทธคยามาพาราณสี พบปัญจวัคคีย์และเทศน์สอนธรรมบทแรก ธัมจักรกัปปวัตรสูตร (เราจะสวดมนต์บทนี้กันที่สถานที่จริง หัดสวดไปได้เลยนะคะ)

กลางวัน  แวะทานกลางวัน ณ วัดไทยสะสาราม 
08.30น.

 ถีงพาราณสี เข้าชมสถานที่ดังนี้

  • ธัมเมกขสถูป สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สถานที่แสดงปฐมเทศนา
  • บริเวณโดยรอบป่าอิสิปตนมฤทายวัน
  • พิพิธภัณฑ์สารนาถ สถานที่เก็บรักษาหัวเสาอโศกที่สมบูรณ์และพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาที่สวยงามที่สุด

หลังจากนั้นพาท่านไปชมวิถีชีวิตชาวอินเดีย ที่ใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 4,000 ปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา

  • ล่องแม่น้ำคงคา ชมวิถี พิธัดั้งเดิมของคนอินเดีย 
เย็น   ทานอาหารเย็นและพักผ่อน ณ โรงแรม Pinnacle Gate 

 พาราณสี เมืองโบราณ วิถีชีวิตริมแม่น้ำคงคาที่อารยธรรมไม่เคยหยุดชะงักกว่าพันๆปี

เป็นเมืองสำคัญของโลกในแง่สังคม วัฒนธรรม อารยธรรม ที่นี่ถูกกครองสลับกันไปมาระหว่างเจ้านครฮินดูและอิสลามจนถึงช่วงอังกฤษ แม่น้ำคงคาเป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ถึงแม้จะเป็น Top Destination ขาดนี้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่นี่แค่ครั้งเดียว อยู่จำพรรษาเดียวคือช่วงเวลาหลังจากตรัสรู้และมาโปรดปัญจวัคคีย์ หลังจากนั้นไม่เสด็จมาที่นี่อีกเลย

ริมแม่น้ำคงคาเป็นตัวอย่างใช้ชีวิตแบบพระเวทที่ผู้คนยังพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ มีการบูชาคงคาอารตีซึ่งเป็นตัวอย่างพิธีบูชาที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยพระเวท และพิธีเผาศพริมแม่น้ำ ผู้คนเชื่อกันว่า หากศพคนตายได้ชำระล้างโดยพระแม่คงคาแล้ว ผู้ตายจะได้ขึ้นสวรรค์

วันที่ 4 : 9 เมษายน 2566 / พาราาณสี - กุสินารา 

เช้า

 ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่เมืองกุสินารา 

วันนี้เดินทางไกลวันแรก ทานอาหารกลางวันแบบกล่องเนื่อจากระหว่างทางไม่มีวัดไทย ร้านอาหารระหว่างทางเป็นร้านท้องถิ่น อาหารอาจจะไม่เหมาะกับธาตุของเราค่ะ 

บ่าย  ช่วงบ่ายถึงกุสินารา 
  • กราบสักการะมหาปรินิพพานสถูปสถานที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน
  • กุฏพันธเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพ
เย็น

 ทานอาหารเย็นและเข้าที่พักที่โรงแรม Om International

 กุสินารา เมืองเล็กในแคว้นเล็กที่พระพุทธเจ้าตัดสินใจมาปรินิพพาน

ชื่อเดิมคือกุสาวดี พระพุทธเจ้าเคยเทศน์ไว้ในมหาสุทธัสสนะสูตรว่ากุสาวดีเคยเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ ปกครองโดยพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ในสมัยพุทธกาล กุสินาราอยู่ในแคว้นมัลละซึ่งเป็นแคว้นเล็ก พระอานนท์ทัดทานการมาดับขันธ์ของพระองค์ว่าทำไมมาปรินิพพานที่แคว้นเล็กแทนที่จะไปแคว้นใหญ่อย่างมคธหรือโกศล พระพุทธเจ้าให้เหตุผลว่า หากท่านไปดับขันธ์ที่แคว้นใหญ่ พระบรมสารีริกธาตุของท่านจะถูกยึดไว้โดยเจ้าแคว้น และอาจถูกยำมาใช้เพิ่มอำนาจทางการเมืองของแคว้นใหญ่ให้มีอำนาจมากขึ้นได้ แต่หากมาปรินิพพานที่กุสินารา แคว้นมัลละ พระบรมสารีริกธาตุของท่านจะถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม

วันที่ 5 : 10 เมษายน 2566 / กุสินารา - ลุมพินี 

เช้า  

ทานอาหารเช้าที่โรงแรมและออกเดินทางสู่ด่านชายแดนอินเดีย เนปาล เสาโนรี ก่อนจะข้ามด่านแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 

ผ่านกระบวนการตรวจคนออกเมืองกันก่อนแล้วเดินทางไปสู่จุดหมายของเรา

  • สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 ลุมพินี สถานที่ประสูติ 
บ่าย  ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่โรงแรม Pawan Palace

 ลุมพินี แคว้นสักกะ บ้านเกิดของพระพุทธเจ้า

ปัจจุบันอยู่ในเขตแดนของประเทศเนปาลแต่สมัยเดิมลุมพินีตั้งอยู่ในเขตแดนของอินเดียตั้งแต่สมัยอินเดียยังเป็นมหาชนบท (มหาชนบทแปลว่าเมืองเจริญ) ลุมพินีดั้งเดิมคือสถานที่บริเวณแคว้นสักกะบ้านเกิด บ้านพ่อของเจ้าชายสิทธัตถะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในประเทศเนปาล เราก็จะมากราบกันค่ะ ราคาทัวร์รวมวีซ่าเนปาลแล้วค่ะ ลุมพินีไม่ใช่เมืองแต่เป็นสวนพักระหว่างเมือง ที่เจ้าชายสิทธัตถะมาประสูติที่ลุมพินีเพราะในสมัยพุทธกาลเป็นธรรมเนียมของหญิงที่จะเดินทางไปคลอดที่บ้านแม่ แต่พระนางสิริมหามายาไปไม่ทัน จึงทรงมีประสูติกาลที่สวนลุมพินี

วันที่ 6 : 11 เมษายน 2566 / ลุมพินี - สาวัตถี

เช้า

ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสาวัตถี มหานครคนดี สาวัตถีเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล สมัยพุทธกาลสาวัตถีจึงเป็นเมืองใหญ่มีคนมาศัยอยู่มากมาย

เจ้าครองแคว้นคือพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ซึ่งรักและศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้ามาก จนอยากดองด้วยถึงขั้นส่งคนไปเจ้าหญิงจากแคว้นสักกะมาแต่งงาน จนสุดท้ายกลายเป็นโศกอนาฏกรรมล้างวงศ์วานของพระพุทธเจ้าที่นี่เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา จึงตรัสสอนพระสูตรมากมายที่นี่ เราจะไปกราบสักการะสถานที่สำคัญเหล่านี้

  • วัดเชตวันมหาวิหาร ชาวพุทธคงคุ้นเคยกันดีกับผู้สร้างนั่นคืออนาถบิณฑิกเศรษฐี เราจะไปดู ไปสวดมนต์กันที่สถานที่จริงกันค่ะ
  • อานันทโพธิ์ ปลูกจากหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ตอนแรก ยืนต้นมาจวบจนปัจจุบัน
  • สถูปบ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี 
  • สถูปบ้านพ่อองคุลีมาล 
 
เย็น  ทานอาหารเย็นและพักผ่อนที่Hotel Sravati Platinum

 สาวัตถี แคว้นใหญ่ในสมัยพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้าจำพรรษานานที่สุดในช่วงชีวิต

เป็นอีกเมืองที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน แต่เป็นอีกเมืองสำคัญของประวัติศาสตร์พุทธศาสนา สาวัตถีอย่างที่กล่าวไปว่าเป็นเมืองหลวงของแค้นโกศล ในสมัยพุทธกาลโกศลเป็นแคว้นใหญ่พอๆกับมคธและมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวดองกับพระพุทธเจ้า ด้วยความที่ทรงประทับที่นี่นานถึง 5 พรรษา จึงเกิดเหตุการณ์ เกิดพระสูตรมากมายที่นี่ ดังนั้นสาวัตถีจึงเป็นเมืองที่พลาดไม่ได้ รวมถึงวัดเชตวันที่เราจะพาไปกราบสักการะ เป็นอีกวัดใหญ่ วัดดังเดิมในพุทธศาสนา การได้ไปกราบสักการะสักครั้งจึงเป็นโอกาสสำคัญของเรามากค่ะ

วันที่ 7 : 12 เมษายน 2566 / สาวัตถี - ลัคเนาว์ - กรุงเทพ

03.20 น.  ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่เมืองลัคเนาว์ เมืองหลวงของรัฐอุตตระประเทศ ห่างจากสาวัตถีใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.
13.30 น. เช็คอินสายการบิน Indigo ไฟลท์ 6e6469 ไปยังโกลกาต้า  
18.15 น.

 ถึงสนามบินโกลกาต้า รอต่อเครื่องประมาณ 2.50 ชม. 

21.30 น.

ขึ้นเครื่องสายการบินเดียวกันไฟลท์ 6e2057 ไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ

ถึงกรุงเทพเวลา 01.40 ของวันที่ 13 เมย.