ทัวร์อินเดีย ถ้ำอชันต้า เอลโลร่า ราคาประหยัด 22-25ตุลาคม 2568

ทัวร์อชันต้า เอลโลร่า 

22-25 ตค.2568 (4วัน 3คืน)

*จัดกับทริปใหญ่สังเวชนียสถาน + อชันต้า ไปด้วยกันกับกรุ๊ปวันที่ 22ตค.แต่แยกกลับเองที่สนามบินอินทิรา คานธี นิวเดลี วันที่ 25ตค.ค่ะ

   บินภายใน มีเวลาต่อเครื่องพอดีๆ ไม่ต้องวิ่ง 

โซนอชันต้า พัก 4 ดาว

 1. สถานที่เยี่ยมชม : สังเวชนียสถาน 4 ตำบล+อชันต้า เอลโลร่า มุมไบ

  • ออรังกบาด สถานที่ตั้ง 2 ถ้ำ อชันต้าและเอลโลร่า

สถานที่ตามโปรแกรมสรุป (โปรแกรมเต็มดูด้านล่างค่ะ)

22 ตค. 68 : กรุงเทพ - นิวเดลี - ออรังกบาด (เดินทางตอนกลางวันถึงที่พักค่ำๆ) 

23 ตค. 68 : ถ้ำอชันต้าเต็มวัน ช่วงเย็นหากไม่เพลียออกมาเดินเล่น ช้อปปิ้งได้ค่ะ

24 ตค. 68 : ถ้ำเอลโลร่า - บีบีกามัคบารา มินิทัชมาฮาล     

25 ตค. 68 : ออรังกบาด - กรุงเทพ

2. การเดินทาง

บินภายในทั้งวันไปวันกลับ 

วันที่เดินทางไปถ้ำอชันต้า ใช้รถบัสส่วนตัว

2.1 ขาไป  

Air India ไฟลท์ AI 333+AI 455 ถึงออรังกบาด3ทุ่ม (ทานอาหารบนเครื่อง)

2.3 ขากลับ 

ออรังกบาด - กรุงเทพ Air India Ai444+Ai304 ต่อเครื่อง 5 ชม. สบายๆแบบไม่ต้องวิ่งค่ะ

2.4 ภายในอินเดีย

ใช้รถบัสส่วนตัวตลอดเส้นทาง (ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ของอะไรที่ใช้บนรถเช่นหมอน ผ้าห่ม ของฝากที่ยังไม่ได้แพ็คเอาไว้บนรถได้ ไม่ต้องเอาลงทุกวันค่ะ 

หมายเหตุเรื่องสนามบินและสายการบิน  ทำไมเลือกไฟลท์นี้ ?

ทุกครั้งที่ออกแบบโปรแกรม ฟ้าจะหาวิธีการเดินทางและไฟลท์ที่เวลาดีและถนอมร่างกายทุกคนเสมอ ฟ้าจะหลีกเลี่ยงการเดินทางตอนกลางคืนถึงเช้าแล้วเที่ยวต่อเลยเนื่องจากมันเหนื่อยมาก หรือไฟลท์ที่มีเวลาคอนเนคให้ไม่ถึง3ชม.เพราะมันลุ้นมาก ในการเดินทางข้ามรัฐเราต้องใช้ระบบสนามบินพร้อมกับประชากรพันล้านคน ซึ่งการบินภายในก็สบายกว่านั่งรถไฟอยู่แล้วค่ะ การเลือกไฟลท์บินกลางคืนหรือมีเวลาคอนเนคไม่ถึง 3 ชม. ถึงค่าทัวร์จะถูกลงแต่พอถึงเวลาเดินทางจริงๆเราก็จะทั้งเพลียทั้งลุ้นว่าจะวิ่งทันมั้ย ดังนั้นฟ้าจึงออกแบบการเดินทางที่เราเดินทางกันแบบไม่เหนื่อยมาก ได้พักผ่อนกันก่อนไปเที่ยว เข้าที่พักไม่ค่ำมากจะได้พักผ่อนให้เต็มที่ค่ะ ไม่มีการบินไฟลท์กลางคืนถึงเช้าเที่ยวเลย เพื่อประหยัดค่าโรงแรม อุตส่าห์เก็บเงิน จัดเวลาไปเที่ยว ไปไหว้พระ ไปแบบสบายๆกันดีกว่าค่ะ

สนามบินที่เลือกคือเลือกสนามบินจากเมืองใหญ่ = เปอร์เซ็นแคนเซิลต่ำกว่าสนามบินเล็ก และพยายามเลือกสายการบินเดียวกันก่อนเพราะระบบรันกระเป๋าจะเป็นระบบเดียวกัน ความเสี่ยงเรื่องกระเป๋าไม่มาต่ำลง และเลือกที่ต่อเครื่องภายในไม่นานมาก แต่มีเวลาพอให้เราได้ผ่านตม.+ security แบบไม่ต้องวิ่งลุ้นกันขาขวิดค่ะ
 

3. ที่พัก : โรงแรม 

  • ออรังกบาด : Hotel  7 apples

โรงแรมที่คัดเลือกมาเป็นโรงแรมที่คุ้นเคยกับการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าใจทั้งวัฒนธรรมการกินของชาวต่างชาติเป็นอย่างดีและมารยาทสากล อาหารเป็นอาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ ที่สำคัญพนักงานถูกเทรนด์เรื่องมารยาทสากลมาแล้วค่ะ

4. อาหาร  

เส้นทางอชันต้า เอลโลร่า ออรังกบาด : ทานที่ร้านอาหารแถวๆถ้ำอชันต้าของการท่องเที่ยวอินเดีย และถ้ำเอลโลร่า โรงแรมไกรลาส อยู่ห่างจากถ้ำ 10 ก้าวค่ะ

5. ราคา 

 42,000- รวมทุกอย่าง

หลายท่านสงสัยว่าทำไมราคาสูง+ใช้เวลาหลายวัน ฟ้าเลือกทุกอย่างเองค่ะ รถ ที่พัก ไกด์และตารางเข้าแต่ละสถานที่ไม่อัด เดินทางระหว่างวัน ถึงเมืองก็เข้าสถูปไปกราบมีเวลาก็ใช้เวลากันในนั้นนานๆ อุตส่าห์บินมาตั้งไกลเนอะ ไปสังเวชนียสถานฟ้าเชื่อว่าทุกคนตั้งใจไป ในเมื่อตั้งใจ อยากให้ไปทั้งที ไปดีๆให้สมความตั้งใจไปเลย ดีกว่ามานั่งเสียดายเงินค่ะ โรงแรมในโซนอชันต้าทัวร์ส่วนใหญ่จะใช้โรงแรมดีลที่อยู่ใกล้สนามบิน ค่าทัวร์จะถูกหน่อยแต่ไม่มีอะไรให้เดินค่ะ มุมไบรถติดมากถ้าเราพักไกล = มีเวลาเดินเล่นช้อปปิ้งน้อย ทั้งที่มีอะไรน่าดูเยอะในเมือง จึงเลือกพักย่านใจกลางแบบที่ช้อปปิ้ง กินข้าว เข้าพักในละแวกเดียวกันไปเลย ไปทัวร์แต่ได้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวเองค่ะ รับรอง

5.1 ราคารวม 

  • ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับและบินภายใน ไฟลท์ตามกำหนดการ
  • ค่ารถบัสที่ใช้ในการเดินทางในอินเดียทุกเมือง
  • ค่าที่พักทุกเมือง // ค่าอาหารทุกมื้อ
  • ค่าเข้าชมสถานที่ทุกเมือง (พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน วัดตามเมืองต่างๆ)
  • ค่าวีซ่า 2 ประเทศอินเดีย เนปาล 
  • ค่าประกันการเดินทางวงเงิน1,000,000 บาท กรณีเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง (ไม่รวมประกันความเสียหายของสิ่งของและประกันสุขภาพ) 

5.2 ราคาไม่รวม 

  • ค่าทิปเจ้าหน้าที่ทัวร์(คนขับรถ เด็กรถ ไกด์อินเดีย เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของวัด) ตามความพึงพอใจ
  • ค่าน้ำหนักกระเป่าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องที่เกินกว่าที่ระบุในกำหนดการ
  • ค่าทำพาสปอต ค่าเดินในประเทศไทยในวันเดินทางไปและกลับ
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าของฝาก เงินทำบุญ ค่าซิมโทรศัพท์
  • ค่าประกันทรัพย์สินเสียหายจากการเดินทาง 

โปรแกรมทัวร์เต็ม

วันที่ 1 : 22 ตุลาคม 2568 : กรุงเทพ สุวรรณภูมิ - นิวเดลี - ออรังกบาด 

 

 5.00น.

 พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ Row J ประตู 4 สายการบิน Airindia ไฟลท์ AI333 ออกเดินทางไปยังมหานครนิวเดลี ประเทศอินเดีย

ฟ้ารอพบทุกท่านที่จุกนัดพบ รับของ แจกแท็กกระเป๋า ทานอาหารเช้าบนเครื่อง (กระบวนการและเอกสารการเข้าตม.แจ้งอย่างละเอียดในกลุ่มไลน์ค่ะ)

 10.35น.

ถึงกรุงนิวเดลี ผ่านตม. รับกระเป๋าและไปเช็คอินสายการบินเดียวกันไฟลท์ AI455

อาหารกลางวันอิสระในสนามบินค่ะ

 19.00น.   ออกเดินทางสู่ออรังกบาดด้วยสายการบินเสริฟอาหารเย็นบนเครื่องค่ะ
 18.30น.

ถึงออรังกบาด รับกระเป๋าและออกเดินทางไปยังที่พัก ทานอาหารเย็น พักผ่อนเตรียมชุดสวยๆไปถ้ำอชันต้าพรุ่งนี้ค่ะ

วันนี้เดินทางทั้งวันแต่เราอยู่ในสนามบินเย็นๆ มีน้ำ มีขนม มีกาแฟ สนามบินมีที่งีบหลับ มีที่ชาตแบต มีเวลาต่อเครื่องสบายๆไม่ต้องเร่งร้อนเดินเล่นดูของในดิวตี้ฟรีและไม่ต้องนั่งรถไกลค่ะ แค่ในสนามบินเราก็จะเห็นความแตกต่างของประเทศอินเดียระหว่างโซนเมืองใหญ่และโซนสังเวชนียสถานกันบ้างแล้วค่ะ

ที่พัก Hotel 7 apples

 

 วันที่ 2 : 23 ตุลาคม 2568 :  ถ้ำอชันต้าเต็มวัน   

ช่วงเช้า

วันนี้อุทิศให้ถ้ำอชันต้าค่ะ ทานอาหารเช้าและออกเดินทางกัน เตรียมหมวก ร่ม กระบอกน้ำให้พร้อม ถ้ำอชันต้าห่างจากเมืองออรังกบาดไปประมาณ 3 ชม. 

กลุ่มวัดถ้ำอชันต้าเป็นวัดถ้ำเก่าแก่ที่สวยงามที่สุดในแถบอินเดีย ถูกสร้างขึ้นโดยการขุดเจาะภูเขาลงไปเป็นวัด สถานที่สวดมนต์ ประกอบพิธีสงฆ์ และวิหารสถานที่จำวัดของพระสงฆ์ในสมัยนั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปีค.ศ.1983 ประกอบไปด้วยถ้ำ 28 ถ้ำ มีอายุกว่า 2,000 ปีสร้างขึ้นโดยประมาณ พ.ศ.700-1300 ก่อนถูกทิ้งร้าง และถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยคณะล่าสัตว์ชาวอังกฤษ ถ้ำอชันต้า เป็นต้นแบบการขุดเจาะภูเขาเป็นศาสนสถาน โดยมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมและภาพเขียนสีผนังสมัยโบราณ ซึ่งภาพวาดเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวพุทธประวัติและพระโพธิ์สัตว์ของมหายาน เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าพุทธศาสนาตั้งมั่นอยู่บริเวณแถบนี้มาก่อนเมืองออรังกาบาดจะถูกปกครองโดยศาสนาอิสลาม นำโดยราชวงศ์โมกุล

เราจะใช้เวลาที่นี่เต็มที่ในการเดินชมภาพเขียนและสถาปัตยกรรมซุ้มประตูที่แกะสลักด้วยมือคนเป็นๆสวยๆกันตามสบาย ค่อยๆเดินค่ะ ไม่รีบ

ช่วงเที่ยงทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารใกล้ๆถ้ำและเดินทางกลับสู่เมืองออรังกาบาด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.

ช่วงเย็นกลับมาจากถ้ำแล้ว หากไม่เหนื่อยกัน สามารถไปเดินเล่นที่ห้างใกล้ๆที่พักได้ เดินดูย่านที่อยู่อาศัยของคนอินเดียในรัฐนี้ได้ เป็นข้อมูลในใจไปเปรียบเทียบกับสภาพความเป็นอยู่ของคนที่รัฐพิหาร ในเส้นทางสังเวชนียสถานค่ะ

ช่วงเย็น ทานอาหารเย็นและพักผ่อน ณ โรงแรม 7 apples

 

 วันที่ 3 : 24 ตุลาคม 2568 :  ถ้ำเอลโลร่า 

 

ช่วงเช้า

ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่กลุ่มวัดถ้ำเอลโลร่า

กลุ่มถ้ำเอลโลร่าได้ต้นแบบมาจากกลุ่มถ้ำอชันต้า ประกอบไปด้วยถ้ำของ 3 ศาสนาคือพุทธ ฮินดูและเชนเมื่อได้ต้นแบบมาจากอชันต้า ลักษณะองค์ประกอบของถ้ำจึงเป็นส่วนของวัดและที่พักของพระสงฆ์ กลุ่มถ้ำของพุทธจะอยู่จากถ้ำหมายเลข 1-12 ส่วนถัดมาจะเป็นวัดของฮินดูซึ่งสร้างขึ้นมาภายหลัง โดยมีถ้ำที่โดดเด่นมากคือถ้ำที่ 16 เขาไกรลาส เป็นลักษณะการเจาะภูเขาหินทั้งลูกลงไปเป็นวิหารในศาสนาฮินดู เราจะใช้เวลาที่นี่สบายๆไม่เร่งรีบค่ะ

ทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารที่โรงแรมไกรลาสใกล้ๆถ้ำเอลโลร่า 

ช่วงบ่าย

พาไปชมbibi maqbara หรือ Mini Taj Mahal เป็นสถานที่ฝังพระศพของพระราชินีราบิยะ อุด-ดูราณี (Rabia ud-Durani) ในจักรพรรดิ ออรังเซป สร้างเลียนแบบทัชมาฮาลแห่งอักรา 

The Mini Taj — Bibi Ka Maqbara

 

 วันที่ 4 : 25 ตุลาคม 2568 :  ออรังกบาด - นิวเดลี - กรุงเทพ

เช้า

 ทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปสนามบิน
07.40น.

ออกเดินทางสู่นิวเดลีด้วยสายการบิน Air India ไฟลท์ Ai444 และต่อเครื่องด้วยสายการบินเดียวกันไฟลท์ Ai304 

แยกจากคณะใหญ่ที่จะสังเวชนียสถานต่อตรงนี้ค่ะ 

กระเป๋าจะเช็คทรูไปให้รับี่ไทยเลย ดังนั้นแค่เดินตามป้าย International transfer ไป ผ่านตม.ตรวจsecurity ตามขั้นตอน เข้าไปรอในเกตส์สบายๆรอขึ้นเครื่องกลับไทยช่วงเย็นได้เลยค่ะ