ทัวร์อินเดีย สังเวชนียสถาน 4 ตำบล 12-20 ตุลาคม 2567
ทัวร์แสวงบุญ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล + เมืองสำคัญตามเส้นทางสาวัตถี ไวสาลี ราชคฤห์ นาลันทา
Exclusive !! เจาะลึกลุมพินี รามคาม นิโครธาราม กบิลพัสดุ์
12-20 ตุลาคม 2567 (9วัน 8คืน)
บินIndigo ต่อภายใน รอต่อเครื่องไม่นาน + พักโรงแรม
1. สถานที่เยี่ยมชม : สังเวชนียสถาน 4 ตำบล+เมืองสำคัญ ราชคฤห์ ไวสาลี สาวัตถี
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 สถานที่ตรัสรู้ : พุทธคยา
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สถานที่แสดงปฐมเทศนา : สารนาถ
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ : ลุมพินี
- สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สถานที่ปรินิพพาน : กุสินารา
- ราชคฤห์ เมืองแรกที่พุทธศาสนาตั้งมั่น สถานที่ตั้งวัดแห่งแรกในพุทธศาสนา วันเวฬุวันมหาวิหาร
- นาลันทา สถานที่ตั้งอดีตมหาวิทยาลัยนาลันทาที่เคยยิ่งใหญ่ เชื่อกันว่าเป็นบ้านเกิดของพระสารีบุตรและกราบสักการะหลวงพ่อองค์ดำ
- ไวสาลี เมืองหลวงของแคว้นวัชชี ที่ตั้งของวัดป่ามหาวัณ สถานที่พระน้านางมหาปชาบดีโคตมีออกบวช
- สาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล ที่ตั้งวัดเชตวันมหาวิหาร สถานที่ประทับนานที่สุด 25 พรรษา สถานที่เกิดพระสูตรมากมาย
- รามคาม สถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุโดยพญานาค
- กรุงกบิลพัสดุ์ บ้านเกิดพระพุทธเจ้า สถานที่เจ้าศากยะโดนฆ่าล้างวงศ์วาน
- นิโครธาราม วัดที่พระเจ้าสุทโธทนะสร้างถวายเมื่อครั้งกลับไปโปรดพระญาติ
สถานที่ไม่ได้เรียงเป๊ะๆ แต่ไปตามโปรแกรมสรุปตามนี้ (โปรแกรมเต็มดูด้านล่างค่ะ)
- 12 ตค. 67 : กรุงเทพ - ปัตนะ - ไวสาลี (เสาอโศกต้นสมบูรณ์ที่สุด, สถานที่เกิดภิกษุณี) - กุสินารา (สถานที่ปรินิพพาน)
- 13 ตค. 67 : กุสินารา - ลุมพินี (สถานที่ประสูติ)
- 14 ตค. 67 : ลุมพินี เจาะลึกศากยะ รามคาม นิโครธาราม กบิลพัสดุ์
- 15 ตค. 67 : ลุมพินี - สาวัตถี
- 16 ตค. 67 : สาวัตถี - พาราณสี (วันนี้ วันเดียวค่ะที่นั่งรถไกลสุด 8ชม.+)
- 17 ตค. 67 : พาราณสี สถานที่แสดงปฐมเทศนา - พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้
- 18 ตค. 67 : พุทธคยา เต็มวัน
- 19 ตค. 67 : พุทธคยา - ราชคฤห์ - นาลันทา เมืองแรกที่ศาสนาพุทธตั้งมั่น มีวัดแห่งแรกในอินเดีย
- 20 ตค. 67: พุทธคยา - กลับไทย
2. การเดินทาง
สายการบิน : Indigo บินภายในต่อเครื่อง 3 ชม.
2.1 ขาไป
กรุงเทพ - โกลกาต้า : Indigo ไฟลท์ 6e1058 02.40-03.45 ต่อเครื่อง 3 ชม.นิดๆ
โกลกาต้า - ปัตนะ : Indigo ไฟลท์ 6e6324 07.20-08.35
2.2 ขากลับ
ปัตนะ - โกลกาต้า : Indigo ไฟลท์ 6E6502 16.20-17.30 ต่อเครื่อง 3 ชม.
โกลกาต้า - กรุงเทพ : Indigo ไฟลท์ 6E1057 21.30-01.40
2.3 ภายในอินเดีย
ใช้รถบัสส่วนตัวตลอดเส้นทาง (ไม่ต้องเปลี่ยนรถ ของอะไรที่ใช้บนรถเช่นหมอน ผ้าห่ม ของฝากที่ยังไม่ได้แพ็คเอาไว้บนรถได้ ไม่ต้องเอาลงทุกวันค่ะ)
หมายเหตุเรื่องสนามบินและสายการบิน
สนามบินที่เลือกคือเลือกสนามบินจากเมืองใหญ่ และเลือกสายการบินเดียวกันที่ระบบรันกระเป๋าจะเป็นระบบเดียวกัน และเลือกที่ต่อเครื่องภายในไม่นานมาก แต่มีเวลาพอให้เราได้ผ่านตม.+security แบบเผื่อเวลาค่ะ
3. ที่พัก : โรงแรม
- พุทธคยา : วัดเนรัญชราวาส
- กุสินารา : Hotel Imperial
- ลุมพินี : Hotel 5 Element (2 คืน)
- สาวัตถี : Hotel Sravasti Platinum
- พาราณสี : Hotel Pinnacle
โรงแรมที่คัดเลือกมาเป็นโรงแรมที่คุ้นเคยกับการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เข้าใจทั้งวัฒนธรรมการกินของชาวต่างชาติเป็นอย่างดีและมารยาทสากล อาหารเป็นอาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ ที่สำคัญพนักงานถูกเทรนด์เรื่องมารยาทสากลมาแล้วค่ะ
หมายเหตุเรื่องห้องพัก
โรงแรมพัก 2 วัดพักห้องละ 2-3 ท่านค่ะ ฟ้าเข้าใจว่าท่านใดมาด้วยกัน พี่น้อง สามีภรรยาก็อยากพักด้วยกัน เข้าใจจุดนี้มากๆค่ะ จะจัดให้พักด้วยกัน เพราะเคยได้ฟังลูกทัวร์เล่าให้ฟังว่าโดนจับแยกหญิงชายเด็ดขาดถึงแม้ว่าจะมาเป็นคู่ นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องเลือกที่พักอย่างละเอียดกว่าจะทำออกมาได้แต่ละทริปค่า
4. อาหาร
ที่วัดทานอาหารไทย ส่วนที่โรงแรมเป็นอาหารจีน ไทยและอินเดียผสมผสานกัน รสชาตมาตรฐาน ทานได้แน่นอนค่ะ ส่วนอาหารกลางวันเป็นข้าวกล่องแพ็คจากโรงแรมหรือวัดไทยบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากระหว่างเดินทางมีแต่ร้านอาหารท้องถิ่น อินเดียแท้ๆอาจทานลำบาก จึงแพ็คอาหารกล่องไปแล้วแวะทานระหว่างทาง บางเมืองมีวัดไทยระหว่างทางก็จะแวะพักทานอาหาร เข้าห้องน้ำกันค่ะ
ท่านใดอยากลอง Street Food อินเดีย ฟ้าพาไปค่ะ !!
5. ราคา
- ท่านละ 51,000 บาท (รวมทุกอย่าง ไม่มีการเก็บค่าทัวร์เพิ่มหน้างาน ไม่มีการบังคับยอดใส่ซอง ทำบุญตามกำลังค่ะ)
5.1 ราคารวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ไฟลท์ที่ระบุในกำหนดการ น้ำหนัก 20 กก.
- ค่ารถบัสที่ใช้ในการเดินทางในอินเดีย ค่าเรือล่องแม่น้ำคงคา
- ค่าที่พักทุกเมือง // ค่าอาหารทุกมื้อ
- ค่าเข้าชมสถานที่ทุกเมือง (พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน วัดตามเมืองต่างๆ)
- ค่าวีซ่า 2 ประเทศอินเดีย เนปาล
- ค่าประกันการเดินทางวงเงิน1,000,000 บาท กรณีเสียชีวิตระหว่างการเดินทาง (ไม่รวมประกันความเสียหายของสิ่งของและประกันสุขภาพ)
5.2 ราคาไม่รวม
- ค่าทิปเจ้าหน้าที่ทัวร์(คนขับรถ เด็กรถ ไกด์อินเดีย เจ้าหน้าที่ยกกระเป๋าของวัด ท่านละ 1,000 บาท / ทั้งทริป
- ค่าน้ำหนักกระเป่าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่องที่เกินกว่าที่ระบุในกำหนดการ
- ค่าทำพาสปอต ค่าเดินในประเทศไทยในวันเดินทางไปและกลับ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าของฝาก เงินทำบุญ ค่าซิมโทรศัพท์
- ค่าประกันทรัพย์สินเสียหายจากการเดินทาง
โปรแกรมทัวร์เต็ม
วันที่ 0 : 11 ตุลาคม 2567 กรุงเทพ สุวรรณภูมิ - โกลกาต้า
22.00 น. | พบกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประตู 2 เช็คอินสายการบิน Indigo ไฟลท์ 6e77 |
วันที่ 1 : 12 ตุลาคม 2567 โกลกาต้า - ปัตนะ - กุสินารา
02.40 น. |
ออกเดินทางสู่โกลกาต้า เมืองหลวงแห่งรัฐเบงกอลตะวันออก |
03.45 น. |
ถึงสนามบินโกลกาต้า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินเอกสารฟ้าจัดการเขียนให้ทั้งหมด นอนพักผ่อนบนเครื่องได้เลยค่ะ |
07.20 น. |
ต่อเครื่องสายการบินเดียวกันไปยังปัตนะ ถึงปัตนะเช้า เข้าทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้วเดินทางต่อไปยังไปเมืองกุสินารา ชื่อเดิมคือกุสาวดี โดยจะเดินทางผ่านสะพานที่ยาวที่สุดในอินเดีย สะพานมหาตมะคานธี เข้าสู่เมืองไวสาลีก่อน ระหว่างทางแวะกราบสักการะ
เสาอโศกนั้นเป็นจุดหมุดหมายสำคัญในการแสดงว่าสถานที่นี้คือสังเวชนียสถาน เสาอโศกสร้างโดยพระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ในราชวงศ์เมารยะ ช่วงยุคหลังพระพุทธเจ้าประมาณ 200 ปี ท่านเป็นกษัตริย์ที่มีคุณูปการยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนาของเรา ในเส้นทางสังเวชนียสถาน เสาอโศกที่ไวสาลีเป็นต้นที่สมบูรณ์ที่สุด แต่เราจะไปเห็นหัวเสา แค่หัวเสาที่สมบูรณ์ที่สารนาถ พาราณสีกันค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองเกสรียา แวะชมมหาสถูปเกสรียา สถูปต้นแบบของบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซียในปัจจุบันและเดินทางต่อสู่กุสินารา
ช่วงเย็น เข้าทานอาหารและพักผ่อน ณ โรงแรม Om Residency |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
กุสินาราในสมัยพุทธกาลเป็นเมืองเล็กในแคว้นมัลละ แต่สมัยดั้งเดิมก่อนยุคพุทธกาลเป็นเมืองใหญ่มากชื่อเมืองกุสาวดี ปกครองโดยพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ยิ่งใหญ่มากในช่วงนั้น ของวิเศษใดๆที่หาได้เป็นของพระเจ้ามหาสุทัสสนะหมด ซึ่งพระเจ้ามหาสุทัสสนะก็คือชาติภพก่อนๆของพระพุทธเจ้าและท่านก็กลับมาปรินิพพานที่กุสินาราแห่งนี้
ไวสาลี ชื่อเดิมก็คือไวสาลี ที่แห่งนี้คือต้นกำเนิดระบอบประชาธิปไตยแห่งแรกของโลก ไวสาลีเป็นเมืองหลวงของแคว้นวัชชี พระเจ้าอชาตศัตรูอยากได้วัชชีมานานมาก แต่ด้วยหลักธรรมและหลักการปกครองของเจ้าลิจฉวี (ชื่อของชนชั้นปกครองของวัชชี) จึงทำให้ตีไม่ได้เสียที จนพรรษาสุดท้ายของพระพุทธเจ้า พระเจ้าอชาตศัตรูส่งวัสสการพรามณ์ไปถามความเมือง จริงๆพระพุทธเจ้าไม่ได้แนะแต่ระดับที่ปรึกษากษัตริย์แค่นั่งฟังก็ได้ไอเดียจึงออกอุบายกับพระเจ้าอชาติศัตรูสุดท้าย วัชชีก็ตกเป็นของแคว้นมคธหลังจากพุทธปรินิพพาน
วันที่ 2 : 13 ตุลาคม 2567 : กุสินารา - ลุมพินี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมและออกเดินทางสู่ด่านชายแดนอินเดีย เนปาล เสาโนรี ก่อนจะข้ามด่านแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 ผ่านกระบวนการตรวจคนออกเมืองกันก่อนแล้วเดินทางไปสู่จุดหมายของเรา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่โรงแรม 5 Elements |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ลุมพินี ปัจจุบันอยู่ในเขตแดนของประเทศเนปาลแต่สมัยเดิมลุมพินีตั้งอยู่ในเขตแดนของอินเดียตั้งแต่สมัยอินเดียยังเป็นมหาชนบท (มหาชนบทแปลว่าเมืองเจริญ) ลุมพินีดั้งเดิมคือสถานที่บริเวณแคว้นสักกะบ้านเกิด บ้านพ่อของเจ้าชายสิทธัตถะ ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะอยู่ในประเทศเนปาล เราก็จะมากราบกันค่ะ ราคาทัวร์รวมวีซ่าเนปาลแล้วค่ะ ลุมพินีไม่ใช่เมืองแต่เป็นสวนพักระหว่างเมือง ที่เจ้าชายสิทธัตถะมาประสูติที่ลุมพินีเพราะในสมัยพุทธกาลเป็นธรรมเนียมของหญิงที่จะเดินทางไปคลอดที่บ้านแม่ แต่พระนางสิริมหามายาไปไม่ทัน จึงทรงมีประสูติกาลที่สวนลุมพินี
วัดไทย 960 แวะพักผ่อนก่อนข้ามด่าน เนปาล ในทัวร์สังเวชนียสถาน 9-18พย.2565 | พระพุทธเจ้าน้อยที่คนไทยคุ้นเคย มุมนี้ได้ถ่ายเดี่ยวทุกคนแน่นอนค่ะ | วิหารมายาเทวี สร้างครอบสถานที่ประสูติ |
วันที่ 3 : 14 ตุลาคม 2567 : ลุมพินีเต็มวัน
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่โรงแรมและออกเดินทางสู่สถานที่ดังนี้
|
กลางวัน |
ทานอาหารกลางวัน ณ วัดไทยรามคาม และช่วงบ่ายออกไปเยี่ยมชม
|
วันที่ 4 : 15 ตุลาคม 2566 : ลุมพินี - สาวัตถี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางไปกลับอินเดีย ผ่านกระบวนการเข้าเมืองของอินเดียและแวะพักทานโรตีและเข้าห้องน้ำก่อนข้ามด่านที่วัดไทยนวราชย์รัตนาราม 960 กันอีกสักครั้ง เมื่อวานท่านใดยังไม่หนำใจกับ โรตีอารีดอย วันนี้มาแก้มือกันได้ค่ะ หลังจากนั้นเดินทางต่อสู่สาวัตถี มหานครคนดี สาวัตถีเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศล สมัยพุทธกาลสาวัตถีจึงเป็นเมืองใหญ่มีคนมาศัยอยู่มากมาย เจ้าครองแคว้นคือพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ซึ่งรักและศรัทธาในตัวพระพุทธเจ้ามาก จนอยากดองด้วยถึงขั้นส่งคนไปเจ้าหญิงจากแคว้นสักกะมาแต่งงาน จนสุดท้ายกลายเป็นโศกอนาฏกรรมล้างวงศ์วานของพระพุทธเจ้า (หากอยากฟังต่อ จองทัวร์เลยค่ะ)ที่นี่เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับนานที่สุดถึง 25 พรรษา จึงตรัสสอนพระสูตรมากมายที่นี่ เราจะไปกราบสักการะสถานที่สำคัญเหล่านี้
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็นและพักผ่อน ณ Platinum Sravasti Hotel |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
สาวัตถี เป็นอีกเมืองที่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน แต่เป็นอีกเมืองสำคัญของประวัติศาสตร์พุทธศาสนา สาวัตถีอย่างที่กล่าวไปว่าเป็นเมืองหลวงของแค้นโกศล ในสมัยพุทธกาลโกศลเป็นแคว้นใหญ่พอๆกับมคธและมีความเกี่ยวข้อง เกี่ยวดองกับพระพุทธเจ้า ด้วยความที่ทรงประทับที่นี่นานถึง 5 พรรษา จึงเกิดเหตุการณ์ เกิดพระสูตรมากมายที่นี่ ดังนั้นสาวัตถีจึงเป็นเมืองที่พลาดไม่ได้ รวมถึงวัดเชตวันที่เราจะพาไปกราบสักการะ เป็นอีกวัดใหญ่ วัดดังเดิมในพุทธศาสนา การได้ไปกราบสักการะสักครั้งจึงเป็นโอกาสสำคัญของเรามากค่ะ
กุฏิพระพุทธเจ้า ณ วัดเชตวันมหาวิหาร | ต้นอานันทโพธิ์ ปลูกจากหน่อต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นแรก |
วันที่ 5 : 16 ตุลาคม 2567 : สาวัตถี - พาราณสี
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี แห่งแคว้นกาสีในสมัยพุทธกาล พาราณสีเป็นเมืองใหญ่ เมืองสำคัญที่ปัจจุบันก็ยังสำคัญอยู่ หลังจากตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ทรงพิจารณาถึงคนที่จะสอนได้ และเล็งเห็นว่าเหล่าปัญจวัคคีย์นี้ล่ะที่มีธุลีในตาน้อยพอจะเข้าใจธรรมที่ทรงค้นพบจึงเดินจากพุทธคยามาพาราณสี พบปัญจวัคคีย์และเทศน์สอนธรรมบทแรก ธัมจักรกัปปวัตรสูตร (เราจะสวดมนต์บทนี้กันที่สถานที่จริง หัดสวดไปได้เลยนะคะ)
หลังจากนั้นพาท่านไปชมวิถีชีวิตชาวอินเดีย ที่ใช้ชีวิตแบบนี้มากว่า 4,000 ปี ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็นและพักผ่อนที่โรงแรม Pinnacle |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
พาราณสี เป็นเมืองสำคัญของโลกในแง่สังคม วัฒนธรรม อารยธรรม ที่นี่ถูกกครองสลับกันไปมาระหว่างเจ้านครฮินดูและอิสลามจนถึงช่วงอังกฤษ แม่น้ำคงคาเป็นไฮไลท์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่ถึงแม้จะเป็น Top Destination ขาดนี้ พระพุทธเจ้าเสด็จมาที่นี่แค่ครั้งเดียว อยู่จำพรรษาเดียวคือช่วงเวลาหลังจากตรัสรู้และมาโปรดปัญจวัคคีย์ หลังจากนั้นไม่เสด็จมาที่นี่อีกเลยค่ะ
วันที่ 6 : 17 ตุลาคม 2567 : พาราณสี - พุทธคยา
ช่วงเช้า-บ่าย |
ทานอาหารเช้าและออกเดินทางสู่พุทธคยา สถานที่สำคัญของเราย้อนเส้นทางการเดินทางของพระพุทธเจ้า ท่านเดินเท้าจากพุทธคยาไปพาราณสีแต่เรานั่งรถจากพาราณสีไปพุทธคยาระหว่างจะผ่านบริเวณป่าฝ้าย สถานที่พบภัทวัคคีย์ที่มาฮันนีมูนกับภรรยา แต่มีท่านหนึ่งยังไม่แต่งงานจึงจ้างนางโสเภณีมาเอนเตอร์เทน จนเกิดเรื่องราววุ่นวาย แต่สุดท้ายบรรลุธรรมกันหมด เมื่อถึงพุทธคยาเราจะไปชมสถานที่สำคัญดังนี้ (สลับได้ตามเวลาและสถานการณ์หน้างาน)
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่วัดเนรัญชราวาส |
แห่ผ้าห่มถวายพระพุทธเมตตา | มีเวลาปฏิบัติใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ | ไปชมวัดนานาชาติบริเวณโดยรอบ |
มุมปฏิบัติอิสระ ณ เจดีย์พุทธคยาสถานที่ตรัสรู้ | สถูปบ้านนางสุชาดาผู้ถวายข้าวมธุปายาส | ถวายผ้าป่าบำรุงวัดเนรัญชราวาส |
วันที่ 7 : 18 ตุลาคม 2567 : พุทธคยา
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดออกมาเยี่ยมชมสถานที่ดังนี้
กลางวันกลับไปทานอาหารที่วัดเนรัญและทอดผ้าป่าบำรุงวัดและช่วงบ่าย ให้เวลาอิสระ ตารางสบายๆค่ะ
|
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น และพักผ่อน ณ วัดเนรัญชราวาส |
วันที่ 8 : 19 ตุลาคม 2566 : พุทธคยา - ราชคฤห์ - นาลันทา
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดเนรัญชราวาสและออกเดินทางไปยังเมืองราชคฤห์ซึ่งเป็นเมืองสำคัญมากในชีวิตของพระพุทธเจ้า ราชคฤห์แห่งนี้เป็นเมืองแรกในแดนพุทธภูมิที่พุทธศาสนาตั้งมั่นโดยมีพุทธสาวกคนสำคัญคือพระเจ้าพิมพิสาร ปาวารณาตัวเป็นพุทธศาสนิกชน ในราชคฤห์จึงมีสถานที่มากมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพระพุทธเจ้าให้เราได้ศึกษาและกราบสักการะเช่น
ทานกลางวันกันที่วัดไทยสิริราชคฤห์และเดินทางต่อไปที่นาลันทา เมืองใกล้ๆเพื่อไปกราบสักการะ
เรื่องราวเหล่านี้แค่เกริ่นๆค่ะ พอไปถึงสถานที่จริงๆได้ฟังวิทยากรกันเพลินหู ดูข้างทางกันเพลินตาแน่นอนค่ะ |
ช่วงเย็น | ทานอาหารเย็น พักผ่อนที่วัดเนรัญชราวาส |
ข้อมูลน่ารู้ตามเส้นทางสังเวชนียสถาน
ราชคฤห์ไม่ได้เป็นที่ตั้งของสังเวชนียสถาน 4 ตำบลแห่งใดเลย แต่เป็นเมืองสำคัญมากในยุคพุทธกาลเพราะเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้นมคธ 1 ในแคว้นมหาอำนาจในยุคนั้น ปกครองโดยพระเจ้าพิมพิสารพระเจ้าพิมพิสารเคยเจอเจ้าชายสิทธัตถะแล้วก่อนแล้วเมื่อครั้งทรงออกบวชและเดินมาจากกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ด้วยวรรณะ ผิวพรรณ หน้าตา เมื่อมาถึงราชคฤห์ชาวบ้านก็อื้ออึงกันถึงความงามจนพระเจ้าพิมพิสารเสด็จไปพบพร้อมเสนอให้ออกจากเพศนักบวชแล้วมาช่วยกันปกครองแคว้นมคธ เจ้าชายสิทธัตถะทรงปฏิเสธไป พระเจ้าพิมพิสารจึทูลขอว่าหากทรงตรัสรู้ธรรมเมื่อใดให้มาโปรดท่านด้วย เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะตรัสรู้อนุตตระสัมมาสัมโพธิญาณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้ว ก็ทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ทรงเสด็จกลับไปโปรดพระเจ้าพิมพิสาร และพุทธศาสนาก็ตั้งมั่นที่ราชคฤห์เป็นแห่งแรกในโลก นับจากนั้นเป็นต้นมา
วัดเวฬุวันมหาวิหาร วัดแห่งแรกในพุทธศาสนา | กุฏิพระพุทธเจ้าบนยอดเขาคิชกูช ราชคฤห์ | หลวงพ่อองค์ดำ นาลันทา เตรียมน้ำมันมะพร้าวไปทาขอพรเรื่องสุขภาพค่ะ |
วันที่ 9 : 20 ตุลาคม 2567 : คยา - กรุงเทพ
ช่วงเช้า |
ทานอาหารเช้าที่วัดและออกเดินทางไปยังสนามบินคยา เช็คอินสายการบิน Indigo ไฟลท์ 6E 6502 16.20 เดินทางสู่โกลกาต้า |
17.20 น. |
ถึงสนามบินโกลกาต้า ผ่านกระบวนการการตรวจคนออกเมือง (ข้าวเย็นอิสระในสนามบินค่ะ มีอาหารร้อนในเกตส์หลังจากผ่านsecurity ออกมาแล้วค่ะ) และต่อเครื่องด้วยไฟลท์ 6e78 ไปยังกรุงเทพ สุวรรณภูมิ ถึงไทยโดยสวัสดิภาพ รอจองทัวร์รอบต่อไป |
-
หมายเหตุ
- การเดินทางตามเส้นทางสังเวชนียสถานเป็นการเดินทางในระยะทางพอสมควรและระหว่างทางไม่มีร้านอาหารตามแบบสากลที่เหมาะสมกับคนไทย จึงมีความจำเป็นต้องทานอาหารแบบแพ็คกล่องจากวัดไทยเพื่อความปลอดภัยด้านสุขลักษณะอนามัยของญาติโยมค่ะ
- ประเทศอินเดีย เป็นประเทศที่มีความไม่แน่นอนสูงจากปัจจัยหลายด้าน กำหนดการสามารถปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ตามเหตุปัจจัยได้ตลอดเวลาตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัย และความเหมาะสม โดยยึดถือผลประโยชน์ของญาติธรรมเป็นหลักค่ะ ไม่มีการตัดสถานที่แน่นอน แต่จะสลับก่อนหลัง เช้าเย็นค่ะ
เงื่อนไขการจองและการยกเลิก
- ส่งหน้าพาสปอตและเงินจองมัดจำ 15,000 บาท เงินจำนวนนี้นำไปเพื่อซื้อตั๋วสายการบิน
- ยกเลิก 30 วันก่อนเดินทาง คืนเงินตามจำนวนที่เหลือจากหักค่าใช้จ่ายจริงจากการดำเนินการ
- ยกเลิกน้อยกว่า 30 วันก่อนวันเดินทาง ไม่คืนเงินมัดจำทุกรณี